วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

ลาบเทา


ลาบเทา เป็นอาหารพื้นบ้านทางแถบอิสาน โดยการนำเทา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืด ปรุงด้วยสูตรลาบอิสาน เรียกว่า " ลาบเทา " 

และเป็นที่นิยมรับประทานของชาวอิสานมาทุกยุคทุกสมัย เมนูลาบเทานี้จะเกิดขึ้นได้นั้นต้องอาศัยช่วงจังหวะที่น้ำมีสภาพอุณหภูมิ และระบบนิเวศของน้ำมีความสำพันธ์กันอย่างเหมาะสม จึงจะเกิดเทาขึ้นมาได้มากน้อยต่างกัน พบว่า... แหล่งน้ำในช่วงฤดูหนาว เป็นช่วงที่เกิดเทาได้มาก และพบเทาได้มากกว่าในช่วงฤดูอื่น (เดือนพฤศจิกายน - มกราคม)

ส่วนผสม
1. เทา
2. ป่นปลา
3. น้ำปลาร้าต้มสุก
4. มะเขือ , ถั่วฝักยาว
5. หอมแดง
6. ต้นหอม ,  ยี่หร่า , ใบหูเสือ ( ยี่หร่า อิสานสนมเรียก หอมห่อ หรือ หอมเป )
7. พริกป่น , ข้าวคั่วบดละเอียด

การปรุงลาบเทา1. ผสมน้ำปลาร้าต้มสุกกับเทา แล้วคนให้เข้ากันให้ได้รูปในลักษณะของเหลวหนืด
2. ใส่ส่วนประกอบอื่นๆ ตามกันไป ได้แก่ ป่นปลาทูนึ่ง , ถั่วฝักยาว และมะเขือ (หั่นแล้ว) , หอมแดง (หั่นแล้ว) บ้างก็ใส่กระเทียมเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานกระเทียม , พริกป่น + ข้าวคั่วบดละเอียด , ต้นหอม + ยี่หร่า + ใบหูเสือ (ซอยแล้ว) แล้วคนให้เข้ากันทีเดียวอีกครั้ง ตักเสิร์ฟพร้อมรับประทาน

หมายเหตุ : เทาอาจมีไข่พยาธิ หรืออื่นๆ ปนมาด้วย เมื่อต้องการกำจัดไข่พยาธิด้วยวิธีการต้มเดือดลาบเทาที่ปรุงเสร็จแล้วนั้น ลาบเทาจะเหลวเป็นน้ำ แต่คุณค่าอาหารยังอยู่ หากต้องการรับประทานลาบเทาสดๆ ให้นำเทาไปแช่แข็งก่อนปรุงที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งประมาณ 10 - 20 นาที ไข่พยาธิก็จะแตก (ตาย)



แกงเห็ดฟางใส่ผักหวาน


แกงเห็ดฟางใส่ผักหวาน
         แกงเห็ดฟางใส่ผักหวานเมนูที่ทำกินได้ทุกฤดูกาล เป็นเห็ดเพาะของเกษตรกรมีขายอยู่ทุกฤดูกาล หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่มีเฉพาะฤดูฝนหรือหน้าฝนเท่านั้น แกงเห็ดใส่ผักหวาน จำพวกเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เนื้อเหนียว หนานุ่มอร่อยคล้ายเนื้อสัตว์มากกว่า เชื่อว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนของเลือดและโรคกระเพาะ
ส่วนผสม
1.ยอดผักหวาน
2.เห็ดฟางดอกตูม
3.เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู เห็ดภูฐาน
4.พริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็กหรือพริกสด 7 เม็ด
5.หอมเล็ก 5-7 หัว
6.ตะไคร้
7.ใบแมงลัก
8.น้ำปลาร้า หรือ น้ำปลา


วิธีทำ
1.โขลกพริก หอมเล็กพอแหลก โขลกต่อให้เข้ากัน
2.นำเห็ดฟางผ่าครึ่ง เห็ดนางฟ้า ฉีกเป็นชิ้นๆ
3.ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เห็ดฟาง รอจนเห็ดสุก ใส่ผักหวาน และข้าวคั่วหรือหรือเบือ
4.พอผักสลด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่ใบแมงลัก คนให้เข้ากันและมีกลิ่นหอม
หมายเหตุ : ข้าวเบือ คือ ข้าวสารเหนียวแช่น้ำแล้วนำมาโขลกให้ละเอียดสำหรับใส่แกงเห็ดเพื่อให้น้ำแกงเข้มข้นน่ากินแซบบ

 


ตำถั่วฝักยาว


ตำถั่วฝักยาว
          ส่วนผสม
          ถั่วฝักยาวหั่นท่อนยาวหนึ่งนิ้ว 100 กรัม
          พริกขี้หนู 10 เม็ด
          กระเทียมปอกเปลือก 5 กลีบ
          น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำมะนาว 1 ½ -2 ช้อนโต๊ะ
          มะเขือเทศสีดาหั่นเสี้ยว 3 ลูก
วิธีทำ
1. ตำถั่วฝักยาวเอาแค่พอบุบแตก ตักใส่จานพักไว้
2. ตำพริกขี้หนู และกระเทียมพอบุบแตก
3. ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ ใช้สากกดคนจนน้ำตาลปี๊บละลาย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
4. ใส่มะเขือเทศสีดา โขลกเบาๆ พอมะเขือเทศสีดาช้ำ
5. ใส่ถั่วฝักยาวที่บุบไว้ในข้อ 1 แครอท ใช้ช้อนยาว และสากโขลกเบาๆ คนให้เข้ากัน
6. ใส่ถั่วลิสงคั่ว ลงไปใช้ช้อนคนให้เข้ากัน
7. ตักส้มตำถั่วฝักยาวใส่จานเสิร์ฟ พร้อมผักสดและข้าวเหนียวร้อนๆ



วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

ปลานึง

นึ่งปลา
 เมืองไทยเรานั้น เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” แสดงถึง ความอุดมสมบูรณืของธรรมชาติและสะท้อนให้เห็นถึงการดำรงชีวิตอยู่ของคนไทยในชนบทได้เป็นอย่างดี ในที่นี้จะขอกล่าวถึงแต่ชาวภาคอัสานที่มีวัฒนธรรมการดำรงชีวิตผูกพันอยู่กับนาข้าว และหนองน้ำ ปลาหลายชนิดถูกนำมาประเป็นอาหาร ซึ่งต่อมาก็ได้เกิดตำรับเมนูอาหารต่างๆ
    ปลาช่อน เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีท่อนหัวคลายงูมีเกล็ดคลายปลาชะโดแต่ตัวเล็กกว่า เนื้อปลาช่อนมีรสหวาน ก้างน้อย รสชาติอร่อย จึงเป็นปลาที่นิยมรับประทานกันมาปัจจุบันมีราคาแพง ชาวอีสานนิยมรับประทานกันมาก ปัจจุบัน มีราคาแพง ชาวอีสานนิยมนำมาทำเป็นอาหารในรูปแบบต่างๆ เช่น แจ่วปลาช่อนห่อหมกปลาช่อนต้มยำปลาช่อนเป็นต้น แต่เมนุอาหารที่ชาวอีสานหรือคนภาคอื่นๆ นิยมรับประทานกันในบรรดาตำรับปลาอีกประเภทหนึ่งคือ ปลานึ่ง ว่ากันว่าในจำนวนปลานึ่งทั้งหลายนั้น ปลาช่อนนึ่งจัดเป็นอาหารตำรับหนึ่งที่มีรสชาติอร่อยเหลือหลายที่ชาวอีสานทุกคนต้องบอกว่าแซ่บอีหลี

เครื่องปรุง

ปลาช่อนหนัก
500 กรัม ตัว
กะหล่ำดอก
ดอก (200 กรัม)
ผักกวางตุ้ง
ต้น (200 กรัม)
ถั่วฝักยาว
ฝัก (100 กรัม)
เกลือป่น
ช้อนชา (กรัม)
ข่าวเหนียวนึ่ง
ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
ตะไคร้
ต้น (30 กรัม)
ใบแมงลัก
ใบ (กรัม)
ใบมะกรูด


 วิธีการปรุง
     1. ขอดเกล็ดปลา ผ่าหลังตั้งแต่หัวจรดหาง แผ่ออกแล่ก้างกลางเอาไส้ทิ้ง ล้างให้สะอาดแล้วเคล้ากับเกลือ ข้าวเหนียวนึ่ง
     2. ล้างผักทั้งหมดให้สะอาด หั่นผักกวางตุ้ง กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาว เป็นชิ้นใหญ่ วางในจาน แล้ววางปลาลงบนผัก
     3. ทุบตะไคร้หั่นท่อน ฉีกใบมะกรูด วางบนตัวปลาใส่ลังถึงนึ่งจนปลาสุก โรยใบแมงลัก ปิดฝายกง
     4. รับประทานกับแจ่วมะเขือเทศ


½ ถ้วย (15 กรัม)





ลาบไก่


เครื่องปรุง
 เนื้อไก่ หนังไก่ เครื่องในไก่ นำปลา พริกป่น ข้าวคั่ว พริกสด หอมแดงแห้ง
 ผักชี หอมสด สะระแหน่ หอมเป[ผักชีฝรั่ง] ข่าสด มะนาว



วิธีทำ
  - ไก่หั่นเป็นชิ้นแล้วสับไม่ละเอียดมากนัก หนังไก่และเครื่องในต้มให้สุกดี(อย่าต้มนาน)แล้วหั่นเป็นชิ้น
 - โขลกข่าสดให้ละเอียด ผักชีและสะระแหน่เด็ดเป็นใบ หั่น   ก้านผักชีหอมสดผักชีฝรั่ง
 - คั่วข้าวคั่วจนสุกและหอมหอมแล้วโขลกให้ละเอียด แล้วหั่นหอมแห้งบางๆ
 - เนื้อไก่รวนให้สุก ใส่หนังไก่ ข่าสด นำปลา มะนาวพริกป่น พริกสดหั่นข้าวคั่วหอมแห้งเครื่องในไก่ ผัก คนให้เข้ากัน  ชิมดูรสตามใจชอบ   จัดใส่จานรับประทานกับข้าวเหนียวและผักพื้นบ้าน
เคล็ดลับ
 - ควรใช้ไก่บ้านเนื้อเพราะเนื้อจะแน่น
 - เครื่องในไก่ใส่สุดท้ายเพราะถ้าคนมากจะเละ
 - รับประทานกับผักสดเช่นแตง ถั่ว ผักกาด ยอดมะตูมอ่อน ยอดกระถิน และผักอื่นๆตามชอบ